“ใบเตย” สีเขียว สดใส ชุ่มฉ่ำ รู้สึกสบายตาทุกครั้งที่มอง นับว่าใบเตยถูกนำมาใช้เป็นสีผสมอาหาร จากธรรมชาติสีแรกๆที่คนไทยนึกถึงตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากมีสีสวยแล้ว กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบเตยก็เป็นที่กล่าวขานถึงเช่นกัน เพราะไม่ว่าขนมไทยแท้ หรือเบเกอรี่ของฝรั่ง ก็ล้วนแต่บรรจุกลิ่นและสีจากใบเตยเข้าไปมากมายหลายสูตรกันเลยทีเดียว
ใบเตยที่เราเรียกติดปากนั้นความจริงคือ “เตยหอม” มีแหล่งกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของเมืองไทยนี้เอง จุดเริ่มต้นมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย ชื่อเสียงเรียงนามจริงของเตยหอมนั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pandanus Amaryllifolius Roxb ชื่อสามัญ Pandom Wangi จัดอยู่ในวงศ์ของ Pandaceae
เตยหอมเป็นไม้พุ่มสูง ใบเดี่ยว ปลายใบแหลมคล้ายหอก สีเขียวเป็นมัน ตรงกลางใบเป็นร่อง มีกลิ่นหอมเย็น เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนใหญ่เติบโตในที่ชื้น ขึ้นเป็นกอ ลำต้นเป็นข้อ เมื่อปลูกไว้นานๆตามต้นจะมีการแตกรากออกมาเป็นฝอย เพื่อดูดความชื้นในอากาศ ทำให้เกิดกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เช่นที่เราคุ้นเคยกัน
ในอดีตคนไทยหุงข้าวด้วยหม้อดิน นิยมนำใบเตยมัดเป็นปมรวมกันสัก 4-5 ใบ ล้างให้สะอาดใส่ลงไปด้วย นั่นก็เพื่อความหอมของข้าวที่หุง กลิ่นใบเตยจะทำให้มีความอร่อยมากขึ้น ปัจจุบันใบเตยยังคงเป็นที่รู้จักในทุกระดับชั้น ส่วนใหญ่ใช้ใบเตยสดมาคั้นน้ำ แต่งสีและกลิ่นในอาหาร หรือใช้รองก้นหม้อเวลานึ่งข้าวเหนียวจะทำให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นอกจากนี้เตยหอมยังสามารถนำมาทำดอกไม้จัดแจกัน ตกแต่งโต๊ะอาหาร ใช้ดับกลิ่นเหม็นอับในบ้าน ในห้องครัว และรถยนต์
กลิ่นหอมชวนให้น้ำลายไหลเป็นพรสวรรค์ของใบเตย ส่วนสีเขียวธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่เกิดมาคู่กัน น้ำใบเตยสีเขียวนำมาใช้เป็นส่วนผสมของอาหารได้หลายอย่าง เช่น วุ้นกะทิใบเตย ที่มีทั้งรสชาติหวานหอมของใบเตยและเค็มเล็กๆของกะทิ สังขยาใบเตย เค้กใบเตย น่าอร่อยทั้งนั้น
กลิ่นรัญจวนใจของใบเตยหอมนั้นมีอิทธิพลถึงขั้นมีคนนำมาดัดแปลงทำเป็นชาสมุนไพรไว้ชงรับประทานเลยทีเดียว โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านง่ายๆคือ นำใบเตยมาล้างให้สะอาด ตากแดดให้แห้งแล้วนำไปคั่ว จากนั้นเก็บใส่ขวดหรือกระป๋องแบบใบชาก็จะได้ ‘ชาเตยหอม’ เมื่อต้องการดื่มก็นำมาชงกับน้ำร้อน ได้ทั้งชาชั้นดีที่มีสรรพคุณ ช่วยให้คุณสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ในราคาประหยัด
ส่วนวิธีทำน้ำใบเตยก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงนำใบเตยสดที่ไม่แก่จนเกินไป ตัดจากต้นใหม่ๆล้างทีละใบให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิมไว้สักครู่ หั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆนำมาปั่นให้ละเอียดโดยเติมน้ำ กรองเอากากออก เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำสีเขียวเข้มไว้สำหรับใช้ผสมอาหารแล้ว
สรรพคุณล้นเหลือ
นอกจาก “ใบเตย” หรือ “เตยหอม” มักถูกนำมาผสมในอาหาร เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน แถมยังช่วยแต่งสีเขียวให้กับขนมไทยด้วยแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพแฝงอยู่ด้วย
คุณค่าทางสมุนไพรของเจ้าเตยหอมก็ไม่เบา เวลาได้ดื่มน้ำใบเตยจะได้ความรู้สึกชุ่มชื่นคืนมา ส่วนที่ใช้เป็นยา คือ ใบ รสหวานเย็นหอม บำรุงหัวใจดับพิษไข้ ชูกำลัง โดยใช้ใบเตยสดล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด เติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่มอาจเติมน้ำตาลเล็กน้อยก็ได้ ใบเตยหอมกลั่นด้วยไอน้ำ จะมีสารหอมประกอบหลายชนิด ในทางการแพทย์ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ส่วนรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะและรักษาโรคเบาหวาน ปัสสาวะอักเสบ
ทราบดังนี้แล้ว ลองปลูกใบเตยไว้แต่งสวนหลังบ้านกันสักหน่อยก็ดีนะครับ