ใครๆก็อยากมีสุขภาพที่ดีกันทั้งนั้น แต่เพราะวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของหลายๆคน โดยเฉพาะคนวัยทำงานไม่สามารถปฏิบัติตนตามนั้นได้ เช่น ต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน ฝ่าฟันกับการจราจรที่วุ่นวาย เครียดกับการทำงานทั้งวัน จนสุดท้ายไม่มีเวลาดูแลตัวเอง คำว่าสุขภาพดีจึงดูห่างไกลชาวมนุษย์เงินเดือนเหลือเกิน
อีกทั้งคนที่รักสวยรักงามก็ต้องคอยกังวลกับผิวพรรณที่เริ่มเหี่ยวย่น โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่ปรากฏริ้วรอยตีนกาอย่างบอกอายุชัดเจน จึงไม่พ้นต้องพยายามสรรหาสารพัดวิธีเพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวหนัง คงความเต่งตึงอยู่เสมอ
ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงหาหนทางที่ทำได้ง่าย และประหยัดเวลาเพื่อนำไปสู่สุขภาพที่ดี นั่นก็คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจนช่วยเรื่องขาวใสปิ๊ง วิตามินสุขภาพดีเลิศ หรือผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก สวยเพรียวได้ในพริบตา
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่หันมาเลือกทานอาหารเสริมกันมากขึ้นก็เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆมีประโยชน์หลักๆคือ เข้าไปเสริมส่วนที่ร่างกายขาดให้ครบถ้วนเต็มที่ ช่วยให้ร่างกายได้รับโภชนาการที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยบรรเทาและรักษาโรคบางชนิดแทนยาแผนปัจจุบันได้อีกด้วย
แล้วทำอย่างไรล่ะจึงจะมีสุขภาพที่ดี..คำตอบที่ได้ก็คงไม่พ้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ที่ขาดไม่ได้ก็คือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ฟังดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ทั้งยังต้องใช้ความอดทน และความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้สำเร็จ แต่ทราบหรือไม่ว่าอาหารเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการทำงานในระบบร่างกายโดยตรง อาหารสามารถส่งผลต่อสารพันธุกรรม (Gene) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอายุขัยของมนุษย์ (Telomere) การเลือกชนิดของอาหารส่งผลอย่างมากกับการมีชีวิตที่ยืนยาว อีกทั้งยังมีส่วนช่วยชะลออายุของร่างกาย และช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน มะเร็ง โรคกระดูกพรุน และอื่นๆ
แอดมินเพจขอนำเสนอเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร 7 ประเภทในชีวิตประจำวันที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีสารที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้สุขภาพดี ชะลออายุร่างกาย และช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งงดงามสมวัย โดยไม่ต้องง้ออาหารเสริมอย่างแน่นอน
1)ปลาทะเล ชะลอโรคความจำเสื่อม
ปลาทะเลมีกรดไขมันโอเมก้า-3 (เป็นกลุ่มของกรดไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัวสูง) ในปริมาณสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย การรับประทานปลาอย่างน้อยสองมือ้ต่อสัปดาห์ส่งผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด โดยช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี หรือ LDL (Low-Density Lipoprotein) เพิ่มไขมันชนิดดี หรือ HDL (High-Density Lipoprotein) อีกทั้งยังมีผลช่วยป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลดีต่อสมอง และช่วยชะลอโรคความจำเสื่อมได้ (Alzheimer Disease) ปลาที่แนะนำ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน
2)น้ำมันมะกอก ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด
ปลาทะเลมีกรดไขมันโอเมก้า-3 (เป็นกลุ่มของกรดไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัวสูง) ในปริมาณสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย การรับประทานปลาอย่างน้อยสองมื้อต่อสัปดาห์ส่งผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด โดยช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี หรือ LDL (Low-Density Lipoprotein) เพิ่มไขมันชนิดดีหรือ HDL (High-Density Lipoprotein) อีกทั้งยังมีผลช่วยป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลดีต่อสมอง และช่วยชะลอโรคความจำเสือมได้ (Alzheimer Disease) ปลาที่แนะนำ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน
3)ดาร์กช็อกโกแลต ช่วยให้สุขภาพผิวดี
ภายใต้ความหวานหอมละมุนลิ้น ดาร์กช็อกโกแลต มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonois) ที่มีฤทธิ์ต้นอนุมูลอิสระในปริมาณมาก ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบและความหมองคล้ำของผิวหนังจากแสง UV กลางแดด แม้กระทั่งหลอดไฟในห้องทำงานภายในออฟฟิศได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ลดรอยเหี่ยวย่นและทำให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes Type 2) โดยปริมาณที่แนะนำ คือ 1 ชิ้นต่อวัน (100 กรัม) ขอเตือนว่าถ้าหากทานมากไป อาจจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์นะครับ
4)โฮลเกรน ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
โฮลเกรน คือ ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เยื่อหุ้มเมล็ด เนื้อเมล็ด และจมูกข้าวส่วนในสุด ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ และใยอาหาร การทาน Whole Grain เป็นประจำจะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes Type 2) รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งในทางเดินอาหารอีกด้วย ตัวอย่างของโฮลเกรน ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ลูกเดือย ขนมปังโฮลวีต ซีเรียลโฮลเกรน และธัญพืช
5)พืชตระกูลถั่ว เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ
นอกจากปลาทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 แล้ว พืชตระกูลถั่ว เช่น วอลนัท อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเหลือง เป็นอีกทางเลือกที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ มีไฟเบอร์ และให้พลังงานสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว สามารถช่วยในเรืองของการควบคุมน้ำหนัก ปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณครึ่งถ้วยกาแฟ หรือหนึ่งฝ่ามือต่อวัน
6)โยเกิร์ต สร้างภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินหายใจ
ประกอบด้วยแบคทีเรีย Probiotic ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งยังอุดมไปด้วย วิตามินและแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม (Calcium) โพแทสเซียม (Potassium) และวิตามินบี (Vitamin B) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย การศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่าแบคทีเรียในโยเกิร์ต มีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม และยังส่งผลต่ออายุขัยที่ยืนยาว (Longevity) อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างร่างกายมนุษย์กับจุลินทรีย์ในร่างกายอีกด้วย
ปัจจุบันมีหลักฐานการศึกษาชัดเจนว่า Probiotics มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดเชื้อในทางเดินอาหารได้ และมีบทบาทสำคัญในการป้องกันภาวะภูมิแพ้ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่รับประทานโยเกิร์ตวันละ 1 แก้ว ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ด้วยเช่นกัน
7)ชาเขียวและกาแฟดำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ
สำหรับคนที่ชื่นชอบเครื่องดื่ม การดื่มชาเขียวหรือกาแฟดำวันละ 1 แก้ว มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะในชาเขียว มีสารประกอบสำคัญ คือ EGCG (Epigallocatechin Gallate) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจ ช่วยกระตุ้นความจำ ลดความเสี่ยงมะเร็งในทางเดินอาหาร ส่วนกาแฟมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ในเมล็ดกาแฟมีแมกนีเซียม (Magnesium) ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้ออักเสบ ช่วยป้องกันการเป้นตะคริว และโครเมียม (Chromium) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีอีกด้วย